วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ครั้งแรกกับหว่องกาไว - Chungking Express...

..ความรู้สึกแรกที่ดู Chungking Express จบ คือ..


โคตรเขินสายตาเฮียเหลียงในฉากจบ >//<

เขินจนบิดจนม้วน คนอะไรมองผู้หญิงได้หวานฉ่ำขนาดน้านนนน งู้ยยยยย  >//////<

แค่นี้แหละ...

เอาจริงๆ คือ ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของหนังโดยรวมเท่าไร ไม่รู้ว่าจริงๆ หว่องจะสื่ออะไร

ความรู้สึกที่ดูหลากหลายมาก ผสมกันยุ่งเหยิงไปหมด ไม่เคยดูหนังเรื่องไหนแล้วใช้ความรู้สึกเปลืองเท่านี้มาก่อน

แต่สิ่งที่ทำให้ชอบหนังเรื่องนี้มากๆ คือ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่มันโดนเราจังๆ อย่างละนิดละหน่อย หลายๆ จุด 

ตัวละครเด่นๆ มี 4 คน ถ้าเทียบกับคนทั่วไป ทั้ง 4 คน ไม่มีใครปกติเลย มีนิสัยที่โดดสุดๆ ทำอะไรสุดโต่งทุกคน 



- สาวผมทอง นักค้ายา ใส่เสื้อกันฝนกับแว่นกันแดด ตลอดเว? มันใช่เหรอ???  เตรียมรับมือฝนตก แต่ก็เผื่อไว้แดดออกเหมือนกัน ... ‘เราไม่รู้ว่า เมื่อไรฝนจะตก เมื่อไรแดดจะออก’ สาวผมทองว่าไว้อย่างนั้น ถือเป็นนักค้ายาที่ทำตัวได้โดดเด่นสุดๆ

ชอบความมั่นใจตัวเองและเด็ดขาดของสาวผมทอง ตอนยิงคือยิงทันที ไม่มีอาการลังเล ฉากที่ชอบคือ ทำกระเป๋าหล่น หยิบขึ้นมาของอย่างอื่นก็ร่วงลงไปอีก มันมีความหงุดหงิด ฉุนเฉียว ไม่ได้ดั่งใจ ดูแล้วอยากร้องไห้ มันมีความอ้างว้างอยู่ในนั้น กับตอนลักพาตัวเด็กไปกินไอติม... เธอขู่พ่อเด็กว่าจะฆ่าเด็กถ้าไม่บอกที่อยู่ของคนที่ขโมยยาเธอไป เธอรอจนแน่ใจว่าพ่อเด็กไม่มีวันบอก จึงปล่อยเด็กไป ไม่ได้มีความสงสารอยู่ในนั้น แค่ไม่มีประโยชน์ที่จะฆ่า มันมีความไม่แยแสโลก ไม่สนคนอื่น ให้ความรู้สึก เธออยู่คนเดียวมานานเกินไป อยู่กับตัวเองมากไป อาจเพราะอาชีพที่ทำ  ก็ดูสมเหตุสมผลดี... 



- 223 ตำรวจผู้โดนแฟนสาวบอกเลิกในวันเมษาหน้าโง่  ซึ่งเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องโกหก เขาจึงเริ่มซื้อสัปปะรดกระป๋องที่หมดอายุวันที่ 1 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันเกิดของเขา วันละกระป๋อง หมายใจว่า ถ้าแฟนยังไม่กลับมาจะเปิดกินทั้งหมดในวันเกิดตัวเอง และให้ถือว่าความรักระหว่างเธอกับเขาหมดอายุแล้ว ซึ่งก็สมใจ... 

223 เป็นผู้ชายที่คิดว่าหายากอยู่ ติดแฟนเหมือนติดแม่ มีอะไรก็แชร์หมด จับโจรได้ก็บอกแฟน น่ารักกกก... พอเลิกกันไปเหมือนหลักที่เขายึดไว้มันหลุดลอยไป เขาเลยพยายามที่จะรั้งมันไว้ ทำทุกอย่างจนแน่ใจว่าเขาไม่กลับมาจริงๆ เขาน่ารักมากจริงๆ นะ ชอบความพี่ไม่ได้มาเล่นๆ ของเขา พี่ทุ่มสุดตัว ไม่ทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ กินสับปะรดหมดอายุุ 30 กระป๋องในคืนเดียว แล้วก็อ้วกกก พีคมากกก คือ ถ้าเป็นเราๆ ทำ ก็จะมีคำถามว่า ทำไปทำไมว่ะ แต่คือที่เขาทำมีความหมายมากต่อตัวเขาเอง เป็นการสัมผัสความรักที่หมดอายุได้ลึกซึ้งทีเดียว คงจะเอียนสับปะรดกระป๋องไปอีกนาน รวมความรักครั้งนี้ด้วย...



ตอนของ 223 มีอะไรให้เล่าเยอะ บทโดนๆ เด็ดๆ ก็เยอะ ฉากที่ชอบที่สุดคือตอนที่ 223 วิ่งตากฝนตอนสุดท้ายแล้วทิ้งเพจเจอร์ เพื่อยุติทุกอย่างที่ทำมา แต่สุดท้ายเพจเจอร์ก็ดัง (จังหวะของหนังโรงแมนติกสุดๆ) เป็นข้อความอวยพรวันเกิดจากสาวผมทอง สิ่งที่เขาคิดหลังอ่านข้อความคือ "ถ้าความทรงจำบรรจุกระป๋องได้ มันต้องมีวันหมดอายุด้วยหรือเปล่า ถ้ามีก็ขอให้เป็นหนึ่งหมืนปี" อ่าา ยังไม่เข็ดสินะ... ให้ภาพว่า เป็นคนที่อยู่ได้ด้วยความหวังในรัก ถึงจะไม่สมหวัง แต่ก็มีความหวังว่ามันจะเกิดขึ้นสักวัน...



- 663 ตำรวจอีกนายหนึ่ง ที่เทียวมาซื้อสลัดให้แฟนแอร์โฮสเตสทุกวัน จนวันหนึ่งเถ้าแก่ร้านสลัดเสนอให้ซื้ออย่างอื่นเพิ่มไปให้แฟนเลือก เผื่อเปลี่ยนรสชาติ 663 ทำตามนั้น และมันก็ให้ผลดี ดีจนแฟนแอร์ฯ หนีไปตามหารสชาติใหม่ๆ และไม่กลับมาอีก... 



เราว่าที่ 663 โดนแฟนทิ้งเพราะเขาไม่ใช่คนสังเกตสังกาอะไรเท่าไร จะว่าความไม่เอาใจใส่ได้หรือเปล่า? เริ่มตั้งแต่ไม่รู้ว่าแฟนชอบอะไร ซื้อสลัดแบบเดิมๆ ไปให้ แฟนไม่ว่าอะไร ก็คิดว่าแฟนชอบ ตอนอาเฟยเริ่มมาทำความสะอาดห้องให้ ยังไม่รู้ว่ามีคนแอบเข้ามาทำนู่นนี่ในห้อง ไม่สังเกตแม้กระทั่งผ้าปูที่นอนเปลี่ยนลายไปแล้วด้วยซ้ำ-_- เขาโฟกัสกับสิ่งๆ เดียว แล้วลืมสิ่งรอบข้างไปเลย แต่พอบทจะใส่ใจ ก็ใส่ใจทุกอย่างขึ้นมาซะอย่างนั้น... 


ตอน 663 เป็นตอนที่สับสนและซับซ้อนที่สุด แต่ก็ชอบที่สุด ฮาสุดตรงเขาพูดกับสิ่งของในห้อง เราว่าเลเวลแม๊กซ์ของคนเหงาจนเพี้ยนคือ การพูดคนเดียว จะชินกับการพูดกับทุกสิ่งอย่าง ที่ไม่ใช่คน... ฉากตอนคุยกับผ้าขี้ริ้ว คือฮามาก ต้องขนาดนี้เลยเหรอ คุยจริงจังมาก คล้าย 223 เลย แต่ 223 คือทู่ซี้คนอื่น ส่วนอันนี้คือแบบโตแล้ว คุยคนเดียวได้ งี้เลยอ่ะ 663 เขาใช้ชีวิตไปวันๆ เอื่อยเฉื่อยไม่มีจุดหมาย แต่ก้แอบหวังว่าแฟนแอร์ฯ จะกลับมา แม้เขาจะแสดงออกมาว่า อยู่ได้ ไม่แคร์ ก็ตาม แต่เขาก็ยังดูโดดเดี่ยวมากๆ เราคิดว่าคนส่วนใหญ่เป็นอย่างนี้ ซับซ้อน เข้าใจยาก...

- อาเฟย สาวคนงานในร้านสลัด ที่ 663 มาซื้อบ่อยๆ แอบหลงรัก 663  ตั้งแต่ที่เขายังไม่เลิกกับแฟนจนแฟนทิ้ง ชอบเปิดเพลง California Dreaming ดังๆ มีความฝันว่าจะไปแคลิฟอร์เนีย ในสักวัน...



พอเป็นฉากของอาเฟย เราจะมีความสุขมาก ดูมีอิสระที่จะทำทุกอย่าง แอบเข้าห้องคนอื่น หนีงานที่ร้านแบบไม่รู้สึกผิด ไปนู่นนี่ได้ตามต้องการ ดูเป็นคนอยู่ง่ายกินง่ายดี และชัดเจนกับความคิดตัวเองอยู่เหมือนกัน 

อาเฟย เป็นตัวละครที่ตรงไปตรงมาที่สุด ไม่ซับซ้อน มีความสุขกับอะไร ก็จะทำอย่างนั้น ฉันจะทำ แค่อยากทำ ไม่มีเหตุผลอะไรเลย ทั้งเรื่องงานที่ทำเพราะอยากทำ จะเก็บตังค์ไปแคลิฟอร์เนีย แอบเข้าบ้านของ 663 ไปเปลี่ยนนู่นนี่ในห้องให้ตามใจชอบ เอาความเป็นตัวเองไปเป็นส่วนหนึ่งของคนที่แอบชอบ ชอบฉากแปะรูปตัวเองปนกับแสตมป์ใน เป็นตัวละครที่มีความสุขที่สุดในเรื่องนี้แล้ว เราคิดว่างั้นนะ...

เอาจริงๆ ระหว่างตัวละครผู้หญิงกับผู้ชาย เราเข้าใจตัวละครผู้หญิงน้อยกว่า เราไม่รู้ว่าพวกเธอคิดอะไรอยู่ ต้องสังเกตจากการกระทำเอา 

หนังของ หว่อง กา ไว โดดเด่นในเรื่องบทที่จะคมๆ ลึกซึ้ง แต่เราดันมาดูในยุคที่เต็มไปด้วยเพจและแอคคำคม เลยอินน้อยหน่อย เลยไปเน้นส่วนอื่นๆ ของหนังแทน แต่ก็ยังคิดว่าเป็นหนังที่ละมุนมากอยู่ดี แอบสงสัยว่าถ้าโตขึ้นกว่านี้ ความรู้สึกที่ได้ดูอีกครั้งจะเปลี่ยนไปรึเปล่า // หย่อนลงไทม์แคปซูล ^^